ทะเบียนสวย
ทะเบียนสวย เป็นอย่างไร
บทความว่าด้วย ทะเบียนสวย
ทะเบียนสวย
ทะเบียนมงคล
สำหรับคนที่ชื่นชอบตัวเลข หรือเชื่อถือเรื่องโชคลางนั้น คงจะต้องให้ความสนใจกับเลขทะเบียนรถไม่น้อยไปกว่าให้ความสนใจในการซื้อรถคันใหม่อย่างแน่นอน เพราะความโดดเด่นที่น่าสนใจของตัวเลขนั้นเป็นการบอกถึงสัญลักษณ์หรือเรื่องราวที่สามารถเกี่ยวเนื่องและผูกพันกับชีวิตประจำวันของผู้ซื้ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในขณะที่ตัวเลขแต่ละตัวนั้นมีความหมายเป็นสิริมงคล และยังเป็นที่นิยมชมชอบ เลขสวยเลขดีจึงเป็นที่กล่าวขานให้พูดถึงกันเป็นวงกว้าง ซึ่งในที่นี้จะพูดถึงเลขทะเบียนรถยนต์
เลขทะเบียนรถยนต์นั้นเป็นความสนใจและความชื่นชอบส่วนบุคคล ซึ่งแต่ละบุคคลจะมีความสนใจต่างกันไป เพราะเชื่อว่าเลขทะเบียนสวยจะเป็นสิริมงคลต่อผู้ใช้ก่อให้เกิดความสำเร็จอีกทั้งยังเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ให้แก่เจ้าของรถอีกด้วย สำหรับผู้ที่ได้เป็นเจ้าของตัวเลขที่ตนชื่นชอบ หรือเป็นเลขที่เป็นมงคลแล้วยังถือเป็นการทำบุญสร้างความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนอีกด้วย
สำหรับทะเบียนตัวเลขที่ได้รับความนิยมก็มีทั้งเลขสี่ตัวเหมือน สองตัวเหมือน รวมทั้งที่เป็นเลขตัวเดียว นอกจากนี้จากการเก็บข้อมูลยังพบว่าตัวเลขบางกลุ่มก็ยังเป็นที่ต้องการ ได้แก่ เลขสวยแบบเรียงกัน เช่น 8888, 9999, 5555 ฯลฯ เลขสวยแบบเรียงสลับเลข เช่น 9898, 7272 ฯลฯ เลขสวยแบบเป็นคู่ เช่น 77, 88 และเลขที่บวกรวมกันแล้วมีความหมายความเป็นมงคล ฯลฯ
เลขทะเบียนรถที่เป็นมงคล คำว่า “มงคล” ความหมายตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายถึง “เหตุที่นำมาซึ่งความเจริญ สิ่งซึ่งถือว่าจะนำสิริและความเจริญมาสู่ และป้องกันไม่ให้สิ่งที่เลวร้ายมากล้ำกราย” จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชีวิตประจำวันของคนไทย จะมีเรื่องของ “ของมงคล” มาเกี่ยวข้องอยู่ในวิถีชีวิตมากมาย ทั้งอาหารมงคล ขนมมงคล สัตว์เลี้ยงมงคล ต้นไม้มงคล ฯลฯ โดยเฉพาะตัวเลข ที่เป็น “เลขมงคล” นั้น เกี่ยวกันกับชีวิตประจำวันของคนไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลแล้ว
เรื่องของตัวเลขที่มีความหมายเป็นสิริมงคลนั้นเชื่อกันว่าหากได้ผูกพันกับเลขเหล่านั้นแล้วเมื่อประกอบภารกิจใด ชีวิตก็จะประสบกับความเจริญรุ่งเรือง จนบางคนถึงกับเสาะแสวงหา “เลขทะเบียนรถยนต์” ของตนให้เป็นเลขมงคล พอเวลามีการประมูลเลขทะเบียนสวย หรือเลขมงคลของสำนักงานขนส่งฯ แต่ละจังหวัด หลาย ๆ คนก็จะต้องขวนขวายลงทุนไปประมูลในราคาสูง ๆ เพื่อให้ได้เลขมงคลที่ตัวเองชื่นชอบ โดยคิดว่าจะนำความเป็นสิริมงคลมาให้ ก่อให้เกิดสิ่งที่ดีงามในชีวิต รวมทั้งเกิดความมั่นใจในการขับขี่รถยนต์ด้วย
มาดูกันว่า มี “ตัวเลข” อะไรบ้างที่คนไทยถือเป็นเลขมงคล และมี “ตัวเลข” อะไรที่คนจีน คนญี่ปุ่น คนฝรั่ง เขาถือเป็นเลขมงคล และไม่ถือเป็นเลขมงคล หรือเป็นเลขที่ควรหลีกเลี่ยง
เลข 9
เลข 9 ในความเชื่อของคนไทย
เลข 9 เป็นเลขที่มีความหมายในทางมงคล “เลขเก้า” นอกจากเสียงจะเป็นมงคล เพราะออกเสียงพ้องกับคำว่า “ก้าว” ที่อาจหมายถึง ความก้าวหน้า ก้าวไกล หรือก้าวไปข้างหน้า บ้างก็ว่า เลข 9 ยังหมายถึง การมีอายุยืนด้วย
ขอให้ สังเกตงานมงคลต่าง ๆ จะยึดเลข 9 เป็นหลักเวลานำมาใช้ในเรื่องของฤกษ์ยาม ที่ต้องเป็นวันที่ 9 เดือน 9 รวมทั้งขึ้นต้นหรือลงท้ายด้วยเลข 9
เลข 9 ในความเชื่อของคนจีน
เลข 9 ถือเป็นเลขมงคล เนื่องจากเป็นเลขที่มีค่ามากที่สุด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ ความเป็นที่สุด นอกจากนี้ เสียงอ่านของเลข 9 ยังพ้องเสียงกับคำว่า “นาน ยาวนาน” ที่แสดงถึงการมีอายุยืน จึงทำให้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เลข 9 เป็นเลขที่ครองใจชาวจีนตลอดมา ไม่ต่างกับคนไทย
เลข 9 ในความเชื่อของชาวญี่ปุ่น
เลข 9 ในความเชื่อของชาวญี่ปุ่นแตกต่างจากคนไทยและคนจีน เนื่องจากเลข 9 ในภาษาญี่ปุ่นอ่านออกเสียงว่า “คุ” ซึ่งไปพ้องเสียงกับคำที่หมายถึง ความยากลำบากในภาษาญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นจึงถือว่าเลข 9 เป็นเลขที่ไม่ดี
เลข 8
เลข 8 ในความเชื่อของคนไทย
เป็นเลขที่มีความหมายเป็น 2 ทาง กลุ่มหนึ่งเชื่อว่า เมื่อเกี่ยวข้องกับเลข 8 จะร่ำรวย เลข 8 มีความหมายดี อีกทางหนึ่งเลข 8 ในความเชื่อของคนไทยบางกลุ่มเชื่อว่า เป็นเลขไม่ดี เป็นเลขแห่งราหู หมายถึง การทะเลาะวิวาท ความเดือดร้อน
เลข 8 ในความเชื่อของคนจีน
ชาว จีนที่ทำการค้าจะชื่นชอบเลข 8 เป็นที่สุด เพราะเลข 8 ในภาษากวางตุ้งไปพ้องกับคำที่มีความหมายว่า ร่ำรวย มั่งมี ตั้งแต่เปิดประเทศมา ชาวจีนกวางตุ้งรุ่นแรก ๆ ที่เริ่มมาทำการค้าจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง คนจีนในมณฑลอื่น ๆ จึงถือเป็นแบบอย่างในการทำธุรกิจ และถือเลข 8 เป็นเลขมงคลตามอย่างคนกวางตุ้ง รวมทั้งยังหมายถึง 8 เซียน หรือโป๊ยเซียน ที่คอยดูแลปกป้องรักษา ซึ่งในฮ่องกง ทะเบียนรถยนต์เลข 8888 คนจะแย่งประมูลกัน และมีราคาแพงกว่าราคารถเสียอีก
เลข 8 ในความเชื่อของชาวญี่ปุ่น
ชาวญี่ปุ่นถือว่าเลข 8 เป็นเลขมงคล ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า “ฮะจิ” ทำให้เกิดความเชื่อที่ว่า เป็น
เลขแห่งความสมบูรณ์ ความสมดุล มีที่มาจากความเชื่อเรื่องศาสตร์แห่งความสมดุลของขงจื้อ รวมทั้งความเชื่อในนิกายเซ็นด้วย
เลข 7
เลข 7 ในความเชื่อของคนไทย
คน ไทยถือว่า เลข 7 เป็นเลขไม่เป็นมงคล มีคำกล่าวโบราณเป็นความเชื่อทางโหราศาสตร์ที่ว่า โทษทุกข์ ทายเสาร์ เลข 7 เป็นเลขแห่งความทุกข์ ความอมทุกข์
เลข 7 ในความเชื่อของชาวญี่ปุ่น
คน ญี่ปุ่นถือว่าเลข 7 เป็นเลขมงคล เพราะเลข 7 คนญี่ปุ่นอ่านออกเสียงว่า “ชิจิ” และที่ประเทศญี่ปุ่นมีประเพณีกินสมุนไพร 7 ชนิด ซึ่งเชื่อกันว่า จะทำให้สุขภาพดีด้วย
เลข 7 ในความเชื่อของชาวยุโรป
ชาว ยุโรปถือว่า เลข 7 เป็นเลขที่ดี เป็นเลขที่ให้โชคลาภ เป็นเลขศักดิ์สิทธิ์และมีอำนาจพิเศษ ยิ่งถ้าหากมีหลาย ๆ ตัวจะทำให้เกิดโชคดีมากขึ้นไปอีก
นอกจากนั้น เลข 7 ยังเป็นเลขที่เกี่ยวข้องกับความรักตามแบบของฝรั่งอีกด้วย โดยเฉพาะกับทฤษฎี “เซเว่น เยียร์ อิทช์” (Seven year itch) โดยมีเรื่องเล่ากันว่า หากใครที่เป็นแฟนกันแล้ว 7 ปี หากยังไม่แต่งงานใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน จะต้องมีเหตุให้เลิกรากันไป ทั้งนี้มาจากผลงานการวิจัยของชาวต่างชาติในเรื่องคุณภาพชีวิตสมรส ที่มักจะเริ่มต้นแบบหวานแหววเหมือนกันหมด และจะเริ่มตกลงในราวปีที่ 7 ที่ความรักเริ่มจืดจางลง
เลข 6
เลข 6 ในความเชื่อของคนไทย
เป็น เลขที่คนไทยถือว่าไม่ดี หรือไม่เป็นมงคล เนื่องจากเวลาออกเสียงแล้ว เสียงไม่เป็นมงคล คือ หมายถึง หก ตก ทำอะไรไม่ขึ้น ล้มไม่เป็นท่า
คน โบราณจึงเชื่อกันว่า เลขทะเบียนรถยนต์ไม่ควรมีเลข 6 และ เลข 0 เพราะจะทำให้เกิดการสูญหายหรือหก ตามคำอ่าน เรียกว่าตัวเลขอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือมีเหตุที่ไม่ดีกับรถ บางคนจึงหลีกเลี่ยงทะเบียนรถยนต์ที่มีเลข 0 กับเลข 6
เลข 6 ในความเชื่อของคนจีน
ชาวจีนเชื่อว่าเลข 6 เป็นสัญลักษณ์ของความราบรื่น หนุ่มสาวคู่ใดที่จะแต่งงานมักเลือกวันที่มีเลข 6 เป็นวันมงคล เช่น วันที่ 6 หรือไม่ก็วันที่ 16 หรือวันที่ 26 เพื่อเป็นเคล็ดให้ชีวิตคู่อยู่ราบรื่นสมหวัง
เป็นที่น่าสังเกตว่า เบอร์โทรศัพท์บ้าน เบอร์โทรศัพท์มือถือ หรือทะเบียนรถยนต์ที่มีหมายเลข 6, 8 และ 9 จะเป็นที่นิยมของคนจีน
เลข 6 ในความเชื่อของฝรั่ง (ทั้งยุโรปและอเมริกา)
ฝรั่ง ถือว่า เลข 6 เป็นเลขที่ไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นเลข 6 หรือเลข 666 เพราะเชื่อกันว่าเป็น “เลขอาถรรพ์” จะทำให้เกิดนอกลู่นอกรอย เกิดความวิตถาร ประหลาดผิดเพี้ยน เป็นเลขซาตาน รวมทั้งเวลาออกเสียงแล้วไม่เป็นมงคล เพราะเลข 6 เมื่อออกเสียงแล้วจะไปพ้องกับคำว่า Sick เจ็บไข้ได้ป่วยในภาษาอังกฤษ
เลข 4
เลข 4 ในความเชื่อของคนจีน
คน จีนจะไม่ชอบเลข 4 เพราะออกเสียงคล้ายกับคำว่า “ตาย (ซี้)” ในภาษาจีน เลข 73 กับ เลข 84 ถือว่าเป็นเลขอัปมงคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุ เพราะเชื่อกันว่า “ขงจื้อ” เสียชีวิตเมื่ออายุ 73 ปี และ “เมิ่งจื้อ” เสียชีวิตเมื่ออายุ 84 ปี ก็ขนาดนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ยังไม่สามารถข้ามพ้นตัวเลขนี้ไปได้ คนธรรมดายิ่งไม่ต้องพูดถึง ดังนั้น ผู้เฒ่าผู้แก่เมื่อมีอายุ 73 ปี หรือ 84 ปี ทั้งตนเองและลูกหลานก็จะหลีกเลี่ยงไม่กล่าวถึง
เลข 4 ในความเชื่อของชาวญี่ปุ่น
ถือ ว่าเป็นเลขไม่ดี เนื่องจากในภาษาญี่ปุ่น 4 ออกเสียงเป็น “ชิ” ซึ่งความตายในภาษาญี่ปุ่นก็ออกเสียง “ชิ” เช่นเดียวกัน เรียกว่าออกเสียงคล้ายกันมาก ดังนั้น เลขที่ห้องตามอพาร์ทเม้นต์หรือตามโรงแรมในประเทศญี่ปุ่นจะข้ามเลข 4 ไป มีแต่ห้อง 1, 2, 3 ห้องต่อไปเป็นเลข 5 โดยที่จะไม่มีห้องหมายเลข 4 ให้เห็นเลย
เลข 13
เป็นที่ทราบกันทั่วไปแล้วว่า หมายเลข 13 คนฝรั่งถือเป็นเลขไม่ดี หมายเลขห้องตามโรงแรมจะข้ามห้องหมายเลข 13 ไป โดยเฉพาะถ้าวันที่ 13 ตรงกับวันศุกร์ จะถือเป็นวันที่โชคร้ายที่สุด
อาถรรพ์เลข 13 นั้น ชาวคริสต์เชื่อว่า เลข 13 เป็นเลขอัปมงคล เนื่องจากเป็นอาหารมือสุดท้ายของพระเยซูคริสต์ ที่เรียกกันว่า “เดอะ ลาสต์ ซัปเปอร์” (The last Supper) ที่มีสาวกร่วมโต็ะพร้อมหน้ากันกับพระองค์รวม 13 คน
และความเชื่อที่ว่า วันศุกร์เป็นวันโชคร้าย เพราะเป็นวันที่พระเยซูคริสต์ถูกตรึงกางเขน และเป็นวันที่ “อดัม” กับ “อีพ” ละเมิดกัดแอปเปิ้ลต้องห้ามของพระผู้เป็นเจ้าในสวนเอเด็น จนต้องถูกขับไล่ออกมา ยิ่งกว่านั้น ยังเชื่อว่า เป็นวันที่อดัมกับอีฟ ล้มตายไปจากโลกอีกด้วย ดังนั้นเมื่อวันศุกร์ตรงกับวันที่ 13 จึงเป็นวันที่เลวร้ายมากวันหนึ่ง
เลข 13 มีอิทธิพลขยายออกไปอย่างกว้างขวางในอเมริกาและยุโรป ขนาดที่ทำให้นักเดินเรือในบางประเทศ ไม่ยอมออกเรือในวันที่ 13 และถ้าสังเกตดูให้ดี ลิฟท์ตามโรงแรมในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะไม่มีชั้น 13 คือจะมีตัวเลขบอกลิฟท์ชั้น 12 แล้วชั้นต่อไปจะเป็นชั้น 14 เลย แต่ที่แปลกไปกว่านั้น ในประเทศตุรกี ถึงขนาดตัดเลข 13 ออกไปจากสารบบของตัวเลขเลยทีเดียว
เมื่ออ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้ว หลายคนคงจะรู้จักและเข้าใจ “เลขมงคล” ทั้งในความเชื่อของคนไทยและคนต่างชาติมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะความเชื่อที่ว่า เลขใดเป็นเลขมงคลและเลขใดเป็นเลขที่ไม่ดี หรือเป็นอัปมงคล
ความรู้ในการเลือกเลข ทะเบียนรถ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถกระบะ รถมอเตอร์ไซค์ มีหลักดังนี้
ข้อที่ 1 คนที่เกิดตามวันเหล่านี้ ห้ามมีเลข ดังนี้
คนเกิดวันอาทิตย์ ห้ามมีเลข 6
คนเกิดวันจันทร์ ห้ามมีเลข 1
คนเกิดวันอังคาร ห้ามมีเลข 2
คนเกิดวันพุธ (06.00-17.59) ห้ามมีเลข 3
คนเกิดวันพุธ (18.00-05.59) ห้ามมีเลข 5
คนเกิดวันพฤหัสบดี ห้ามมีเลข 7
คนเกิดวันศุกร์ ห้ามมีเลข 8
คนเกิดวันเสาร์ ห้ามมีเลข 4
ข้อที่ 2 ห้ามมีเลขเหล่านี้อยู่ติดกัน เพราะเป็นเลขที่มักทำให้เกิดอุบัติเหตุ
เลขเหล่านี้ คือ 13 31 37 73 35 53 30 03
เช่น ทะเบียนรถ 1313 3100 3737 3137 3537 7353 3031 เป็นต้น
ข้อที่ 3 ผลรวมของตัวเลขทั้งหมด (ซึ่งไม่เกิน 36)…. ห้ามได้เท่ากับ 13 31 35 เช่น ทะเบียนรถ 1291 1129 2182 4900 5800 7789 9899 เป็นต้น
เรื่องของรถ ข้อสำคัญ คือ เรื่องอุบัติเหตุ ซึ่งนอกจากอิทธิพลตัวเลขแล้ว พื้นฐานดวงชะตา ก็สำคัญ ฤกษ์ยามการออกรถ สีรถ ล้วนเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ นอกเหนือจากความประมาทได้
ส่วนเรื่องของสีรถ
คนเกิดวันอาทิตย์ ห้ามใช้ รถสีน้ำเงิน
คนเกิดวันจันทร์ ห้ามใช้ รถสีแดง
คนเกิดวันอังคาร ห้ามใช้ รถสีขาว และสีเหลือง
คนเกิดวันพุธ (6.00-17.59 น.) ห้ามใช้ รถสีชมพู
คนเกิดวันพุธ (18.00-05.59 น.) ห้ามใช้ รถสีส้ม แสด
คนเกิดวันพฤหัสบดี ห้ามใช้สีม่วง
คนเกิดวันศุกร์ ห้ามใช้สีดำ สีเทา และ สีเขียวอ่อน
คนเกิดวันเสาร์ ห้ามใช้สีเขียวหัวเป็ดคนเกิด
ดังนั้น หากใครที่เกิดวันอาทิตย์ แล้วใช้รถสีน้ำเงิน มีเลขทะเบียนรถ 1313 มีโอกาสสูง ที่จะเกิดอุบัติเหตุรุนแรง วิธีแก้เคล็ด ไม่นิยมให้ติดสติ๊กเกอร์คำว่า รถนี้สี….. เพราะมันง่ายและไม่สมเหตุ สมผลเอาเลย วิธีที่ถูกต้อง ควรจะหาสิ่งของที่มาเสริม แก้เคล็ด จะดีกว่า เช่น เอาเสื้อสีที่ถูกโฉลก มาหุ้มเบาะที่นั่งด้านหน้าทั้งสอง หรือสั่งทำที่หุ้มเบาะ ที่นั่งด้านหน้าทั้งสองใหม่ โดยใช้สีที่ถูกโฉลกกับตัวเอง ตกแต่งกันชนสี่มุมทั้งหน้าและหลังด้วยสีที่ถูกโฉลก เช่น เกิดวันอาทิตย์ บังเอิญรถเป็นสีน้ำเงิน ก็ให้ใช้เสื้อสีขาว หรือเขียวเข้ม มาหุ้มเบาะที่นั่งด้านหน้า ทำเป็นสติ๊กเกอร์สวยงามมาตกแต่งสี่มุมของกันชน ทั้งหน้าและหลัง เป็นต้น
ส่วนการคิดคำนวณตัวเลข เพื่อออกคำทำนาย เราจะไม่สนใจอักษรภาษาไทย หรือตัวเลขด้านหน้า เพราะถือว่ามีซ้ำกันเป็นหมื่นเป็นแสนคัน เช่นเดียวกับเลขทะเบียนบ้าน ที่เราจะเอาเฉพาะตัวเลขหลัง / (ทับ) มาคำนวณ โดยเลขที่บ้านตัวหน้าไม่คิดเพราะมันมีเหมือนกันทั้งหมู่บ้าน เช่น ศว. 189 ตัว ศว.ไม่คิด คิดแต่เลข 189 ซึ่งมีผลรวมเท่ากับ 18 และนำแต่ละตัวไปบวกกันจะได้ผลลัพธ์เท่ากับ 9 เท่ากับว่ารถคันนี้ คนขับน่าจะเป็นผู้ชาย อาจมีปัญหาเรื่องระบบไฟ มีพระตั้งอยู่ในรถยนต์ เป็นต้น
คนเกิดวันอาทิตย์
– ตามหลักทักษาคนที่เกิดวันอาทิตย์ ห้ามใช้ ศ ษ ส ห ฬ ฮ เพราะเป็นอักษรกาลกิณี
– เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 6 และเลข 3
– ไม่ควรทำการมงคลต่าง ๆ ในวันศุกร์ เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิดและไม่ควรทำการมงคลต่าง ๆ ในวันอังคาร เพราะเป็นวันคู่ศัตรูวันเกิด
– ถ้าจะออกรถ สีรถที่ควรเลือกใช้หรือสีรถที่ถูกโฉลก ของคนเกิดวันอาทิตย์
คนเกิดวันจันทร์
– ตามหลักทักษาคนที่เกิดวันจันทร์ ห้ามใช้ สระทั้งหมด (เว้นไม้หันอากาศและตัวการันต์) เพราะเป็นอักษรกาลกิณี
– เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 1 และเลข 5
– ไม่ควรทำการมงคลต่าง ๆ ในวันอาทิตย์ เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิดและไม่ควรทำการมงคลต่าง ๆ ในวันพฤหัสบดี
เพราะเป็นวันคู่ศัตรูวันเกิด
– ถ้าจะออกรถ สีรถที่ควรเลือกใช้หรือสีรถที่ถูกโฉลกของคนเกิดวันจันทร์
คนเกิดวันอังคาร
– ตามหลักทักษาคนที่เกิดวันอังคาร ห้ามใช้ ก ข ค ฆ ง เพราะเป็นอักษรกาลกิณี
– เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 2 และเลข 1 และห้ามเลข เพราะทะเบียนที่มีเลข จะมีเรื่องและเกิดอุบัติบ่อย ๆ
ทำให้เสียเงินทอง หรือทำให้เจ้าของได้รับบาดเจ็บ
– ไม่ควรทำการมงคลต่าง ๆ ในวันจันทร์ เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิดและไม่ควรทำการมงคลต่าง ๆ ในวันอาทิตย์
เพราะเป็นวันคู่ศัตรูวันเกิด
– ถ้าจะออกรถ สีรถที่ควรเลือกใช้หรือสีรถที่ถูกโฉลก ของคนเกิดวันอังคาร
คนเกิดวันพุธ (กลางวัน 06.01-18.00)
– ตามหลักทักษาคนที่เกิดวันพุธ (กลางวัน) ห้ามใช้ จ ฉ ช ซ ฌ ญ เพราะเป็นอักษรกาลกิณี
– เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 3 และเลข 8
– ไม่ควรทำการมงคลต่าง ๆ ในวันอังคาร เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิดและไม่ควรทำการมงคลต่าง ๆ ในวันพุธ (กลางคืน)
คนเกิดวันพุธ (กลางคืน 18.01-06.00)
– ตามหลักทักษาคนที่เกิดวันพุธ (กลางคืน) ห้ามใช้ บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม เพราะเป็นอักษรกาลกิณี
– เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 5 และเลข 4
– ไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันพฤหัสบดี เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิดและไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันพุธ (กลางวัน)
คนเกิดวันพฤหัสบดี
– ตามหลักทักษาคนที่เกิดวันพฤหัสบดี ห้ามใช้ ด ต ถ ท ธ น เพราะเป็นอักษรกาลกิณี
– เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 7
– ไม่ควรทำการมงคลต่าง ๆ ในวันเสาร์ เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิด
– ถ้าจะออกรถ สีรถที่ควรเลือกใช้หรือสีรถที่ถูกโฉลก ของคนเกิดวันพฤหัสบดี
คนเกิดวันศุกร์
– ตามหลักทักษาคนที่เกิดวันศุกร์ ห้ามใช้ ย ร ล ว เพราะเป็นอักษรกาลกิณี
– เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 8 และเลข 7
– ไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันพุธ (กลางคืน) เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิดและไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันเสาร์
คนเกิดวันเสาร์
– ตามหลักทักษาคนที่เกิดวันเสาร์ ห้ามใช้ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ เพราะเป็นอักษรกาลกิณี
– เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 4 และเลข 6
– ไม่ควรทำการมงคลต่าง ๆ ในวันพุธ (กลางวัน) เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิดและไม่ควรทำการมงคลต่าง ๆ ในวันศุกร์เพราะเป็นวันคู่ศัตรูวันเกิด
– ถ้าจะออกรถ สีรถที่ควรเลือกใช้หรือสีรถที่ถูกโฉลก ของคนเกิดวันเสาร์
ส่วนที่ว่าใครจะนำความเชื่อเหล่านี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองหรือคนใกล้ชิดได้อย่างไรนั้น ก็เป็นเรื่องที่ต้องใช้ดุลยพินิจและใช้ความคิดอ่านของแต่ละท่านเป็นสำคัญ เพราะมีหลายเรื่องที่เราจำเป็นต้องรู้ เพื่อจะได้เข้าใจคนรอบข้าง และเข้าใจสังคมให้มากที่สุด จะได้ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมนี้ได้อย่างมีความหมายและมีความสุข ที่สำคัญการที่ใครจะชื่นชอบ หลงใหลและคลั่งไคล้ในตัวเลขมากถึงมากที่สุดถึงกับขนาดยอมลงทุนประมูลเพื่อให้ได้ป้ายทะเบียนรถที่มีทั้งเลขสวยและตัวอักษรมงคลมาครอบครองจนลืมนึกถึงเงินในกระเป๋าของตนเอง แล้วต้องไปกู้ยืมเงินเพื่อมาซื้อจนต้องเป็นหนี้สิน หรือต้องไปฉกชิงวิ่งราวมาอย่างนี้ก็ไม่ควรและไม่แนะนำอย่างยิ่ง แทนที่จะเป็นเรื่องดีกลับกลายเป็นเรื่องร้ายอาจต้องเสี่ยงกับคุกตะรางหรือเสี่ยงเสียชีวิตก่อนที่จะได้ใช้รถก็เป็นได้ เพราะราคาป้ายทะเบียนสวย ๑ ป้ายนั้นมีราคาค่างวดแพงมากกว่าซื้อรถคันหนึ่งเลยก็ว่าได้
ดังนั้นสำหรับผู้ที่ชื่นชอบตัวเลขอย่างไรก็ตามก็ควรจะดูงบประมาณของตนเอง และมองตัวเลขที่ไม่สวยและสูงเกินราคาค่างวดที่ตนเองมีกำลังจะเสียได้ อีกทั้งควรดำเนินการต่าง ๆ แบบทางสายกลางเพื่อให้สบายทั้งเงินในกระเป๋าและสุขภาพของตนเอง ด้วยความปรารถนาดีจากผู้เขียนจ้า
ที่มา
http://www.rakcar.com/ForumId-252-ViewForum.aspx
http://board.palungjit.com/f16/ทะเบียนรถสวย-อักษรมงคลมีความหมาย-117154.html
บทความโดย คุณนภาพร